วันอังคารที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2554

เป้าหมายของธุรกิจที่สำคัญ


เดิมเป้าหมายในการประกอบธุรกิจ คือการแสวงหากำไรสูงสุด(Maximized Profit) ในการพิจารณากำไรนั้นสามารถแยกพิจารณาได้ 2 ลักษณะ คือ กำไรรวมที่ได้รับและกำไรต่อหุ้น แต่ในปัจจุบันธุรกิจมีการแข่งขันมากขึ้น นอกจากนี้ธุรกิจมีบทบาทในการรับผิดชอบต่อบุคคลหลายกลุ่มในสังคม  จึงทำให้เป้าหมายในการประกอบธุรกิจเปลี่ยนแนวความคิดจากเดิมเพื่อแสวงหากำไรสูงสุดเป็นแนวความคิดใหม่ คือ เพื่อให้มีความมั่งคั่งสูงสุด (Maximized Wealth)  หรืการพยายามทำให้มูลค่าของธุรกิจสูงสุด (Maximized Value of the Firm) สิ่งที่จะสะท้อนถึงผลประโยชน์สูงสุดที่ผู้ถือหุ้นได้รับ ธุรกิจที่เป็นบริษัท สามารถพิจารณาได้จาก ราคาตลาดของหุ้นสามัญสูงสุด  อย่างไรก็ตามการที่ผู้บริหารการเงินไม่ใช้กำไรสูงสุดมาเป็นเป้าหมายในการบริหารทางการเงิน เพราะมีข้อบังคับอยู่หลายประการ คือ      
    1.       ไม่ได้คำนึงถึงค่าของเงินตามกาลเวลา (Time Value of  Money) คือ  ไ ม่ได้ให้ความสำคัญของมูลค่าเงินที่เปลี่ยนไปตามเวลา
   2.       ไม่ได้คำนึงถึงความเสี่ยง เนื่องจากธุรกิจต้องการกำไรสูงสุด ดังนั้น ผู้บริหารจะยอมรับโครงการลงทุนที่ให้กำไรสูงสุดโดยไม่ได้สนใจในเรื่องความเสี่ยงที่เกิดขึ้น โครงการที่มีผลกำไรสูง โดยทั่วไปมักจะมีความเสี่ยงสูง ถ้าผู้บริหารมุ้งจะพิจารณาแต่กำไรต่อหุ้นย่อมทำให้เกิดการตัดสินใจที่ผิดพลาดได้ เพราะไม่ได้คำนึงถึงความเสี่ยงของธุรกิจหรือธุรกิจที่มีกำไรต่อหุ้นเท่ากัน ก็ไม่ได้หมายความว่าความเสี่ยงของธุรกิจจะเท่ากัน
    3.       วิธีการบันทึกทางบัญชีตามหลักการบัญชีที่รับรองโดยทั่วไป  มีหลายวิธี เช่น การตีราคาสินค้าคงเหลือและการคิดค่าเสื่อมราคา เป็นต้น นอกจากนี้ ถ้ามีการเปรียบเทียบบริษัทสองบริษัทที่นำมาวิเคราะห์ ซึ่งมีวิธีการบันทึกบัญชีที่แตกต่างกัน ก็จะไม่สามารถวัดได้ว่าบริษัทไหนดีกว่ากันถ้าบริษัททั้งสองมียอดขายที่ ต้นทุนขายและค่าใช้จ่ายในการขายสินทรัพย์ถาวรสุทธิเท่ากันแต่ใช้วิธีคิดค่าเสื่อมราคาแตกต่างกัน
    4.       นโยบายการจัดหาเงินทุน กรณีธุรกิจจัดหาเงินทุนจากการกู้ยืม ดอกเบี้ยจ่ายถือเป็นรายจ่ายก่อนคำนวณภาษี มีผลทำให้กำไรสุทธิของธุรกิจลดลง
    5.       ไม่ได้คำนึงถึงผลกระทบของนโยบายเงินปันผล ถ้าธุรกิจต้องการกำไรสูงสุดธุรกิจจะไม่ยอมจ่ายเงินปันผล แต่จะนำกำไรที่ได้รับไปลงทุนต่อเพื่อให้ได้รับผลประโยชน์เพิ่มขึ้น ผู้ถือหุ้นจะไม่ได้รับผลตอบแทนเป็นตัวเงินในปัจจุบันจึงมีผลกระทบ ทำให้ราคาตลาดของหุ้นสามัญของธุรกิจลดลง ดังนั้นเป้าหมายกำไรสูงสุดจึงมีข้อบกพร่อง
               จากเหตุผลดังกล่าวข้างต้นเป้าหมายทางธุรกิจจึงมีแนวคิดใหม่ โดยการดำเนินธุรกิจจะมุ้งเน้นให้มูลค่าของธุรกิจสูงสุด (Maximized Value of  the Firm) เพื่อให้ผู้ถือหุ้นมีความมั่งคั่งสูงสุด ( Maximized Wealth )  การทำให้เกิดความมั่งคั่งสูงสุดพิจารณาได้จากราคาของตลาดหุ้นสามัญที่สูงสุด แต่ราคาของตลาดหุ้นสามัญมักจะเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ ปัจจัยที่มีผลกระทบต่อราคาหุ้นสามัญประกอบด้วย
             ปัจจัยภายนอก เป็นสิ่งที่กระทบต่อธุรกิจ และเป็นสิ่งที่ธุรกิจไม่สามารถความคุมได้ เช่น  ภาวะเศรษฐกิจของประเทศ การเมือง ราคาน้ำมัน อัตราภาษี เป็นต้น
             ปัจจัยภายใน เป็นสิ่งที่ธุรกิจสามารถควบคุมได้ ได้แก่ ฐานะทางการเงินของธุรกิจ ความเสียงและความมั่นคงของธุรกิจ เป็นต้น
      มูลค่าของธุรกิจที่เป็นบริษัท สามารถวัดได้จากกมูลค่ารวมของราคาตลาดหุ้นสามัญที่ธรกิจนำออกมาจำหน่าย ผู้บริหารทางการเงินต้องพยายามทำให้มูลค่าของธุรกิจมีค่าสูงสุด ปัจจัยที่กำหนดมูลค่าของธุรกิจ
        1.       ความสามารถในการทำกำไร
        2.       ความเสี่ยง
           ปัจจัยที่กระทบต่อมูลค่าของธุรกิจ ได้แก่    
   1.  ประเภทของธุรกิจ ธุรกิจแต่ละประเภทจะมีความสามารถในการทำกำไร และความเสสี่ยงแตกต่างกัน ธุรกิจมีความสามารถในการทำกำไรสูงสุดจะมีความเสี่ยงสูง ส่วนธุรกิจที่มีความสามารถในการทำกำไรต่ำจะมีความเสียงต่ำตาม
   2.   ขนาดของธุรกิจ ธุรกิจที่มีเงินทุนมากความเสี่ยงจะสูงและมีโอกาสที่จะทำกำไรสูง แต่ธุรกิจที่ใช้เงินทุนน้อยจะมีความเสี่ยงต่ำ และมีโอกาสที่จะทำกำไรน้อย
   3.  ชนิดของเครื่องจักร ธุรกิจที่ลงทุนใช้เครื่องจักรที่มีคุณภาพสูง มักจะใช้เงินลงทุนสูงประสิทธิภาพในการผลิตจะสูงด้วย ทำให้ความสามารถในการทำกำไรสูง และความเสี่ยงก็จะสูงด้วย
   4.   การใช้ประโยชน์จากหนี้ ธุรกิจที่กู้ยืมเงินมาลงทุนมาก ต้นทุนของเงินทุนต่ำทำให้ผลกำไรเพิ่มขึ้น ความเสี่ยงจะสูง ตรงกันข้ามถ้ายืมเงินมาลงงทุนน้อย กำไรก็จะน้อย และความเสี่ยงต่ำ
สภาพคล่อง  ธุรกิจที่ต้องการสภาพคล่องสูงเงินทุนหมุนเวียนจะมาก และลงทุนในสินทรัพย์ไมหมุนเวียนน้อย กำไรก็จะน้อย ถ้าธุรกิจต้องการกำไรมาก  ก็จะลงทุนในสินทรัพย์หมุนเวียนน้อย และจะลงทุนในสินทรัพย์ไม่หมุนเวียนมากทำให้สภาพคล่องต่ำ ความเสี่ยงสูง กำไรสูง    


1 ความคิดเห็น: